นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศในวันนี้ว่า รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ถูกสั่งให้กักตัวเองเพื่อดูอาการและไม่สามารถทำงานได้ ขณะที่รัฐวิกตอเรียกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกสอง
แถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยการลาเนื่องจากโรคระบาด หรือที่เรียกว่า "pandemic leave" จำนวน 1,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (1,066 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่ผู้ที่ใช้วันลาป่วยจนหมดและไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาอื่นๆ จากรัฐบาลกลาง เช่น บุคคลที่ถือวีซ่าระยะสั้น
นายมอร์ริสันกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า "โรคระบาดครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติ และเราจำเป็นต้องจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนที่ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยที่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา"
ถ้อยแถลงของนายกฯออสเตรเลียมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรสูงสุดเป็นอันดับสองของประเทศ ประกาศเข้าสู่ภาวะภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืน และการจำกัดเวลานอกเคหสถานสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในนครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย
นายแดเนียล แอนดริวส์ มุขมนตรีของรัฐวิกตอเรีย แถลงในช่วงเช้าวันนี้เกี่ยวกับการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ เช่น การปิดร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ และข้อจำกัดด้านการผลิตและการก่อสร้าง
โดยภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ 6 สัปดาห์ ร้านค้าที่มีความจำเป็นเท่านั้น จึงจะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการ เช่น ร้านขายของชำ สถานีบริการน้ำมัน ร้านขายยา และที่ทำการไปรษณีย์
ส่วนธุรกิจต่างๆ อย่างเช่น โรงฆ่าสัตว์จะลดการผลิตเหลือ 2 ใน 3 และคนงานจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลเต็มรูปแบบ
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดในวันนี้ รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 429 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 13 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศออสเตรเลียที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 18,318 ราย และเสียชีวิต 221 ราย