ผู้ประกอบการระบบจัดส่งไฟฟ้าของรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า คลื่นความร้อนในรัฐแคลิฟอร์เนียจะทำให้มีการดับไฟในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ เนื่องจากบริษัทผลิตไฟฟ้าของรัฐต้องรับมือกับความต้องการใช้ไฟที่สูงเกินคาดด้วยการตัดไฟที่ส่งให้กับบ้านเรือนมากกว่า 3 ล้านหลังเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในแต่ละครั้ง
ผู้ประกอบการระบบไฟฟ้าอิสระ (ISO) คาดว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะขาดแคลนกระแสไฟฟ้าราว 4,400 เมกะวัตต์
การหมุนเวียนดับไฟในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากระทบลูกค้าของบริษัท PG&E ราว 220,000 คน, กระทบลูกค้าของ Southern California Edison กว่า 130,000 คน และกระทบลูกค้าของ San Diego Gas & Electric กว่า 58,000 คน
ทั้งนี้ นายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้สั่งตรวจสอบสถานการณ์ไฟฟ้าดับในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเหตุไฟดับซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า หรือไม่ให้เวลาเพียงพอในการเตรียมตัวนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และไม่เหมาะสม
นายนิวซอมได้ลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า และลดความจำเป็นในการระงับให้บริการไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ อุณภูมิในรัฐแคลิฟอร์เนียได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบอย่างน้อย 100 ปี โดยอุณหภูมิที่หุบเขามรณะ (Death Valley) ในทะเลทรายโมฮาวีของรัฐแคลิฟอร์เนียพุ่งสูงถึง 130 องศาฟาเรนไฮต์หรือ 54.4 องศาเซลเซียสเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นักอุตุนิยมวิทยาของ AccuWeather คาดว่า อุณหภูมิอาจสูงแตะ 90 องศาฟาเรนไฮต์ในเมืองใหญ่ที่สุดบางแห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียจนถึงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิปกติในช่วงเวลานี้ของปีอยู่มากกว่า 10 องศาฟาเรนไฮต์