สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) เปิดเผยว่า เฮอร์ริเคนมาร์โคและพายุโซนร้อนลอราที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านอ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้บรรดาบริษัทน้ำมันต้องอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดน้ำมัน 114 แท่นจากทั้งหมด 643 แท่นในบริเวณดังกล่าว และปรับลดกำลังผลิตน้ำมันโดยรวมลง 57.6% หรือ 1.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งลดกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ 44.6% หรือ 1,205 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
สื่อต่างประเทศรายงานว่า เฮอร์ริเคนมาร์โคและพายุโซนร้อนลอราซึ่งเคลื่อนตัวผ่านทะเลแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโกเมื่อวันอาทิตย์ ได้ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งรัฐลุยเซียนาและประเทศคิวบาหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองหลวงของประเทศเฮติ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ เฮอร์ริเคนมาร์โค ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วลม 75 ไมล์ต่อชั่วโมง (120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งที่รัฐลุยเซียนาในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น และเคลื่อนตัวต่อไปยังรัฐเท็กซัสในช่วงค่ำวันอังคาร
ส่วนพายุโซนร้อนลอราซึ่งพัดผ่านอ่าวเม็กซิโกนั้น ได้ถล่มสาธารณรัฐโดมินิกันและประเทศเฮติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายในคิวบา โดยคาดว่าพายลูกนี้จะทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนก่อนพัดขึ้นชายฝั่งรัฐเท็กซัสและลุยเซียนาในวันพฤหัสบดีนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ประกาศภาวะภัยพิบัติในรัฐลุยเซียนาเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่ประกาศภาวะภัยพิบัติในเครือรัฐเปอร์โตริโกแล้วก่อนหน้านี้
ขณะที่นายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ก็ได้ประกาศภาวะภัยพิบัติ (State Disaster) เพื่อเตือนให้ประชาชนใน 23 เขตของรัฐเท็กซัสเฝ้าระวังพายุดังกล่าวด้วย