สื่อต่างประเทศรายงานว่า ยอดขายรถมือสองในอินเดียกระเตื้องขึ้น เนื่องจากผู้เดินทางซึ่งกลัวการติดเชื้อโควิด-19 จากระบบขนส่งสาธารณะที่แออัดนั้น ได้แห่ซื้อรถมือสองท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ
ชาวอินเดียจำนวนมากกลัวการติดเชื้อโควิดจากการใช้รถโดยสารและรถไฟที่มีผู้ใช้บริการคับคั่ง หรือแม้กระทั่งการใช้รถแท็กซี่เพื่อเดินทางไปทำงาน โดยพวกเขาเลือกที่จะซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มือสอง
ทั้งนี้ ชาวอินเดียจำนวนมากคิดว่า การใช้รถส่วนตัวเป็นหนทางหนึ่งในการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยการเดินทางยังคงเป็นความวิตกที่สำคัญในอินเดีย เนื่องจากอินเดียได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์แล้วเพื่อเริ่มดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
บรรดาดีลเลอร์รถยนต์มือสองแสดงความเห็นว่า ชาวอินเดียส่วนใหญ่เลือกที่จะซื้อรถมือสอง เนื่องจากรายได้ของพวกเขาได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์, หนี้สินที่เพิ่มขึ้น และอนาคตที่ไม่แน่นอนจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว
ยอดขายรถยนต์มือสองที่เพิ่มขึ้นนั้นสวนทางกับยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ร่วงลง โดยบริษัทผลิตรถยนต์พบว่า ยอดขายรถยนต์ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์อินเดีย (SIAM) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในอินเดียร่วงลง 63% ระหว่างเดือนเม.ย.-ก.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยยอดขายในเดือนเม.ย.-ก.ค.อยู่ที่ 336,513 คัน เมื่อเทียบกับ 902,799 คันในช่วงเดียวกันของปืที่ผ่านมา
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์รายงานว่า ณ เวลา 07.00 น. ตามเวลาไทยในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดียอยู่ที่ระดับ 3,167,323 ราย