สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ทำการอายัดบัญชีสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีจำนวน 280 บัญชี ซึ่งเชื่อว่าเป็นบัญชีที่แฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือใช้ขโมยเงินดิจิทัลมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ออกจากตลาดซื้อขายเสมือนจริง 2 แห่ง แล้วนำไปฟอกเงินโดยผ่านเทรดเดอร์ชาวจีน
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการอายัดบัญชี หลังจากในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาได้มีการตั้งข้อหาเทรดเดอร์ชาวจีนได้ 2 รายว่าทำการฟอกเงินคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ให้กับเกาหลีเหนือ
กระทรวงยุติธรรมระบุในคำร้องที่ยื่นต่อศาลว่า เกาหลีเหนือใช้แฮกเกอร์เป็นเครื่องมือเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร
นายไบรอัน แรบบิทท์ รักษาการผู้ช่วยอัยการสูงสุดแผนกคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวว่า "การดำเนินการในวันนี้เป็นการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบถึงความเชื่อมโยงระหว่างแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือและเครือข่ายฟอกเงินดิจิทัลของจีน"
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการด้านการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติ (UN) ระบุในรายงานที่เผยแพร่ออกมาในช่วงกลางปี 2562 ว่า เกาหลีเหนือสามารถระดมเงินได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการผลิตอาวุธทำลายล้างสูงผ่านทางการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อขโมยเงินดิจิทัลจากเว็บไซต์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และธนาคารต่างประเทศ
"การโจมตีครั้งใหญ่ต่อตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้ทำให้เกาหลีเหนือมีรายได้ ซึ่งยากต่อการติดตาม และไม่มีการตรวจสอบจากรัฐบาล เมื่อเทียบกับการโจมตีธนาคารทั่วๆ ไป" รายงานระบุ
รายงานดังกล่าวมาจากการรวบรวมกรณีการโจมตีทางไซเบอร์อย่างน้อย 35 กรณีใน 17 ประเทศซึ่งรวมถึงในชิลี อินเดีย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ และเกาหลีใต้
รายงานฉบับนี้ยังแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือได้หันมาใช้วิธีโจมตีทางไซเบอร์เพื่อหารายได้เป็นเงินตราต่างประเทศ ท่ามกลางการถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ