มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 รายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของสหรัฐ โดยไฟป่าที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐครั้งนี้ ได้เผาผลาญพื้นที่ป่าหลายล้านเอเคอร์ และทำลายบ้านเรือนเสียหายจำนวนมากในรัฐแคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตัน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก
รายงานระบุว่า เฉพาะในรัฐโอเรกอนนั้น ไฟป่าได้เผาพลาญพื้นที่ในรัฐไปแล้วกว่า 1 ล้านเอเคอร์ และขณะนี้ประชาชนอย่างน้อย 10% ของจำนวนประชาชนทั้งหมดในรัฐ อยู่ในเขตอพยพ ขณะที่รัฐบาลของรัฐโอเรกอนกำลังรับมือกับความเสียหายครั้งร้ายแรงที่สุด
เคท บราวน์ ผู้ว่าการรัฐโอเรกอนเปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 4 หมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก โดยทางรัฐกำลังเตรียมรับมือกับ "หายนะขั้นร้ายแรง"
ไฟป่าที่ลุกไหม้ทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมไปทั่วเขตเวสต์โคสต์ของสหรัฐ และทำให้มลภาวะทางอากาศในเมืองบางแห่งอยู่ในขั้นร้ายแรง โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้สภาพอากาศในเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดา ซึ่งก็กำลังเผชิญปัญหาไฟป่าเช่นกัน
ทางด้านเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้แนะนำประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ ให้อยู่ภายนอกที่อยู่อาศัยให้น้อยที่สุด และเมื่ออยู่ในบ้านก็ให้ปิดหน้าต่าง และเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อให้อากาศหมุนเวียน