ตำรวจออสเตรเลียในรัฐวิกตอเรียประกาศแผนพร้อมรับมือกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยระบุว่าจะไม่ทนต่อการฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์อย่างเด็ดขาด
โฆษกตำรวจรัฐวิกตอเรียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวในวันนี้ว่า การชุมนุมในที่สาธารณะภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อคุมโควิด-19 ถือเป็นความผิดทางอาญา
โฆษกฯ ระบุว่า "คำสั่งของประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนั้นชัดเจนว่า ให้หลีกเลี่ยงการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการชุมนุมประท้วงนี้อาจทำให้ชาววิกตอเรียอยู่ในความเสี่ยงได้"
ในวันนี้ รัฐวิกตอเรียรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 45 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบสอง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มาตรการแยกตัวทางสังคมที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการเคอร์ฟิวช่วงกลางคืน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 700 รายต่อวัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากต่างไม่พอใจที่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มานานเกือบ 2 เดือนแล้ว
เมื่อวานนี้ ริค นิวเจนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจวิกตอเรีย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับคำเตือนว่าจะมีการชุมนุมครั้งใหญ่สุดสัปดาห์นี้ และตำรวจจะรับมือด้วยการส่งกองกำลังไปประจำการตามพื้นที่สำคัญทั่วเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย
โฆษกฯ กล่าวว่า "เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เราจับกุมตัวประชาชนกว่า 70 ราย และสั่งปรับผู้ประท้วงในกรุงเมลเบิร์นอีกกว่า 170 ราย และเราไม่ลังเลที่จะดำเนินการแบบเดียวกันกับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด"