ผู้เชี่ยวชาญชาวบราซิลเปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างบราซิลและจีนในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นข้อตกลงที่สร้างประโยชน์ร่วมกันแก่ทั้งสองประเทศ
นายดิมาส โควาส ผู้อำนวยการสถาบันบูตันตัน (Butantan Institute) ศูนย์วิจัยทางชีววิทยาและผู้ผลิตวัคซีนในรัฐเซาเปาลู ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่รายใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ แสดงความชื่นชมการเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทซิโนวัค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) ของจีนและสถาบันบูตันตัน
"นี่ไม่ใช่การแข่งขันเชิงพาณิชย์แต่เป็นการแข่งขันเพื่อชีวิต ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ทั้งบราซิลและจีนได้ประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากโคโรนาวัค (CoronaVac) อาจเป็นวัคซีนตัวแรกหรือหนึ่งในวัคซีนชุดแรกที่จะนำไปใช้ทั่วโลก" นายโควาสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากซิโนวัค ไบโอเทค
"ปัจจุบันสถาบันมีโรงงานที่สามารถผลิตวัคซีน 160 ล้านโดสต่อปี เราเป็นผู้ผลิตและพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ นอกจากนั้นเรายังพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจนมาถึงขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งไข้เลือดออกส่งผลกระทบต่อบราซิลอย่างมาก" นายโควาสเสริม
ความร่วมมือระหว่างจีน-บราซิล มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในภาพรวมตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดสำนักงานการค้ารัฐเซาเปาลูในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2562 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเป็นพันธมิตรกับซิโนวัค ไบโอเทค
นายโควาสกล่าวอีกว่า "เราต้องลดอัตราการเสียชีวิต การบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้คนคือสิ่งที่เราต้องการ โลกจำเป็นต้องได้รับวัคซีน ส่วนความท้าทายอีกประการหนึ่งนั้นคือ การทำให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 นอกจากนี้ การร่วมพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยังเป็นโอกาสส่งเสริมการเป็นพันธมิตรระหว่างชาวจีนและบราซิล"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซิโนวัค ไบโอเทค ผู้ผลิตชีวเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐ และมีฐานการผลิตอยู่ในกรุงปักกิ่ง ได้เริ่มทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตายในขั้นสุดท้าย ที่มีชื่อว่า โคโรนาวัค เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา