นางสเตลลา ไคเรียคิเดส กรรมาธิการด้านสุขภาพและความปลอดภัยของอาหารแห่งยุโรปกล่าวเตือนถึงความเหนื่อยล้าที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศสมาชิกบางแห่งของสหภาพยุโรป (EU) ท่ามกลางแนวโน้มที่ยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง
นางไคเรียคิเดสกล่าวในการแถลงข่าวผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า ประเทศสมาชิกของ EU บางประเทศกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งทะลุระดับสูงสุดของเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และในบางประเทศนั้นพบว่าเกิดความเหนื่อยล้ากับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และละเลยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
นางไคเรียคิเดสได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกดำเนินมาตรการในทันที และเมื่อมีสัญญาณของการแพร่ระบาดรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้น โดยระบุว่า "อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเราที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำเหมือนในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา"
ขณะที่ยุโรปกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว นางไคเรียคิเดสแสดงความกังวัลว่า "การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่" อาจทำให้ระบบสุขภาพของ EU ต้องแบกรับภาระที่มากเกินไป และจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตมากขึ้น"
นางไคเรียคิเดสเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาด พร้อมกับเน้นย้ำว่า จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่รัฐบาลต่างๆ รู้สึกว่า พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ"
ด้านนางแอนเดรีย แอมมอน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคแห่งยุโรป (ECDC) ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่จำเป็น เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การรักษาสุขอนามัยของมือ และการอยู่กับบ้านเมื่อมีอาการป่วย
นางแอมมอนกล่าวว่า "การระบุหาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว, การตรวจหาเชื้อ และการกักตัวผู้ติดต่อที่มีความเสี่ยงสูง ถือเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดการแพร่ระบาด จนกว่าจะมีวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ"
ทั้งนี้ ECDC ได้ปรับปรุงการประเมินความเสี่ยงเมื่อวานนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อัตราการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วทั้ง EU และสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่เดือนส.ค. และมาตรการที่นำมาใช้นั้นยังไม่เพียงพอที่จะลดหรือควบคุมการติดเชื้อได้เสมอไป