อุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลระงับแผนการของโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองฟูกูชิมะที่จะทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล เนื่องจากวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อการประมง
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้เชิญตัวแทนจากอุตสาหกรรมประมงเข้าแสดงความเห็นในวันนี้ ซึ่งสหพันธ์การประมงญี่ปุ่นแสดงความกังวลว่าการทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเลจะทำให้ประเทศต่างๆสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการประมงจากญี่ปุ่น
ทางด้านกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่า รัฐบาลจะทำการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวในไม่ช้า โดยจะพิจารณารวมถึงความห่วงใยของอุตสาหกรรมประมง
อย่างไรก็ดี ทางการญี่ปุ่นระบุก่อนหน้านี้ว่า การทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองฟูกูชิมะลงในมหาสมุทรแปซิฟิกจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เพียงเล็กน้อย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีดังกล่าวภายในระยะเวลา 1 ปี จะมีค่า 0.052-0.62 ไมโครซีเวิร์ตในทะเล และ 1.3 ไมโครซีเวิร์ตในชั้นบรรยากาศ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับระดับ 2,100 ไมโครซีเวิร์ตที่มนุษย์สัมผัสในแต่ละวัน
ทางด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น ระบุก่อนหน้านี้ว่า บริษัทโตเกียว อิเลกทริก พาวเวอร์ (TEPCO) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จะต้องทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองฟูกูชิมะลงในมหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากทางบริษัทขาดแคลนสถานที่ที่จะกักเก็บปริมาณน้ำดังกล่าว
ขณะนี้ TEPCO ได้กักเก็บน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีมากกว่า 1 ล้านตันจากท่อหล่อเย็นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว นับตั้งแต่ที่ประสบความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิในปี 2554
TEPCO ระบุว่า ทางบริษัทจะไม่มีสถานที่ซึ่งจะกักเก็บน้ำดังกล่าวภายในปี 2565