บริษัทโกลด์แมน แซคส์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ออกแถลงการณ์ในวันนี้ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐที่ระบุว่า ทางบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องในการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB ของรัฐบาลมาเลเซีย
โกลด์แมน แซคส์ มาเลเซียให้การยอมรับตามข้อกล่าวหาของทางการสหรัฐในความพยายามเพื่อยุติการสอบสวนในคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้จัดตั้งกองทุน 1MDB วงเงิน 6.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมาเลเซียได้ยักยอกเงินราว 4.5 พันล้านดอลลาร์จากกองทุน 1MDB ในระหว่างปี 2552-2557 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ถูกกล่าวหาว่า ได้ให้ความช่วยเหลือต่อเจ้าหน้าที่มาเลเซียในการยักยอกเงินจากกองทุนดังกล่าว
ทางด้านคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) ประกาศปรับบริษัทโกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เป็นจำนวนเงิน 350 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในกองทุน 1MDB
ค่าปรับดังกล่าวนับเป็นจำนวนเงินสูงที่สุดเท่าที่ SFC ได้เคยสั่งปรับบริษัทต่างๆ
SFC ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ เอเชียมีการบริหารจัดการที่หละหลวมและไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้มีการดำเนินการที่ผิดกฎระเบียบในการเสนอขายพันธบัตร 3 ชุดเพื่อระดมเงินสำหรับกองทุน 1MDB ในปี 2555-2556
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตั้งอยู่ที่สหราชอาณาจักร เป็นบริษัทที่ดำเนินการจัดเตรียม และเป็นอันเดอร์ไรเตอร์ของพันธบัตร 3 ชุดดังกล่าว ซึ่งระดมทุนได้ 6.5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี SFC ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการกระบวนการอนุมัติ และการขายพันธบัตรดังกล่าว และทางบริษัทมีกำไร 210 ล้านดอลลาร์จากการเสนอขายพันธบัตร ซึ่งเป็นวงเงินสูงที่สุดในบรรดาบริษัทในเครือโกลด์แมน แซคส์ที่มีผลประโยชน์จากการจำหน่ายพันธบัตรในครั้งนี้