โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะไม่เข้าร่วมลงนามในสนธิสัญญาการห้ามอาวุธนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (UN) ซึ่งแสดงท่าทีดังกล่าวของญี่ปุ่นสอดคล้องกับสหรัฐ
นายคัตสึโนบุ คาโตะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนว่า "เราเชื่อมั่นว่า เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมด้านความปลอดภัยที่ยากลำบากมากขึ้นรอบญี่ปุ่น จึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่ญี่ปุ่นจะสร้างความคืบหน้าในเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ควบคู่ไปกับการรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคาม"
"ญี่ปุ่นมีเป้าหมายเดียวกันกับสนธิสัญญาฉบับบี้ นั้นคือการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ ทว่าเรามีจุดยืนที่แตกต่างสำหรับวิธีการแก้ไขปัญหา เราจะไม่เป็นผู้ลงนาม" นายคาโตะ กล่าวถึงสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค. ปีหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในฐานะประเทศเดียวที่ประสบภัยด้านนิวเคลียร์ ญี่ปุ่นจึงพยายามที่จะกำหนดตัวเองในฐานะผู้นำในการปลดอาวุธนิวเคลียร์และการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาสหรัฐในการปกป้องญี่ปุ่นจากภัยคุกคามนิวเคลียร์ รวมถึงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ จึงทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถรับรองการห้าม การผลิต การใช้ และการจัดสำรองอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ สนธิสัญญาการห้ามอาวุธนิวเคลียร์จะผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ม.ค.ปีหน้า หลังจากฮอนดูรัสเป็นประเทศที่ 50 ที่ลงนามให้สัตยาบัน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ประเทศใดรับรองสนธิสัญญาฉบับนี้