รัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสเตรียมประกาศยกระดับการคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ หลังพบว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วยุโรปพุ่งขึ้นเกือบ 40% ภายในเวลา 1 สัปดาห์
องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในยุโรปมากกว่า 1.3 ล้านรายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยมีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของตัวเลข 2.9 ล้านรายทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,700 ราย ซึ่งพุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จะจัดการประชุมกับบรรดาผู้นำของรัฐต่างๆในวันนี้ เพื่อหารือการใช้มาตรการปิดผับ บาร์ และร้านอาหาร แต่จะยังคงให้มีการเปิดโรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็ก และจะยังคงให้ประชาชนสามารถเดินทางออกนอกบ้านได้ แต่จะต้องไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว
ส่วนในฝรั่งเศส ซึ่งมีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 50,000 รายภายในวันเดียวนั้น ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง จะประกาศมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี คาดว่าการยกระดับคุมเข้มในเยอรมนีและฝรั่งเศสจะไม่ถึงกับการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศซึ่งมีการบังคับใช้ในเดือนมี.ค.และเม.ย. เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง