ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เดินทางไปยังเมืองนีซในวันนี้ หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธแทงประชาชนเสียชีวิต 3 ราย โดยเหยื่อ 1 รายถูกคนร้ายตัดศีรษะ
ทั้งนี้ ปธน.มาครงได้กล่าวประณามเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว และให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการใหม่ในการต่อสู้กับการก่อการร้าย
"พรุ่งนี้จะมีการประชุมสภากลาโหม ซึ่งเราจะมีการประกาศใช้มาตรการใหม่" ปธน.มาครงกล่าว
นอกจากนี้ ปธน.มาครงยังกล่าวว่า รัฐบาลจะส่งกำลังทหารเข้าประจำการในสถานที่สำคัญ เช่น โรงเรียน และโบสถ์
สื่อรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุโจมตีที่เมืองนีซของฝรั่งเศสเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตำรวจก็ได้วิสามัญคนร้ายคนหนึ่งที่ใช้ปืนเตรียมกราดยิงผู้คนในเมืองอาวีญงทางใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งขณะเกิดเหตุเขาได้ร้องว่า "อัลเลาะห์ อัคบาห์" หรือ "พระเจ้ายิ่งใหญ่"
ทางด้านนายเจอราลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ประกาศจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ หลังเกิดเหตุโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเมืองนีซ ซึ่งนายฌอง คาสเตซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ตำรวจฝรั่งเศสแถลงว่า เหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธแทงประชาชนในเมืองนีซ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บหลายรายนั้น ถือเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และขณะนี้หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติจะเป็นหน่วยงานที่เข้าทำหน้าที่สอบสวนคดีนี้อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ คนร้ายรายหนึ่งใช้มีดเป็นอาวุธแทงประชาชนหลายคนในโบสถ์น็อทร์-ดามในเมืองนีซทางใต้ของฝรั่งเศสในวันนี้ โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นสตรีได้ถูกคนร้ายใช้มีดตัดศีรษะ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 09.10 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 15.10 น.ตามเวลาไทย
ขณะนี้คนร้ายได้ถูกควบคุมตัวแล้ว หลังจากได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
เหตุการณ์โจมตีในวันนี้เกิดขึ้นเพียง 13 วัน หลังจากที่นายซามูเอล ปาตี วัย 47 ปี ซึ่งเป็นครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมของฝรั่งเศส ถูกชาวมุสลิมฆ่าตัดศีรษะ เนื่องจากไม่พอใจต่อการที่นายปาตีนำภาพการ์ตูนศาสดามูฮัมหมัดมาประกอบการเรียนการสอนในชั้นเรียน