สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการอินโดนีเซียได้สั่งอพยพประชาชนหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟเมอราปีซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นมากที่สุดในประเทศ หลังจากเพิ่มระดับเตือนภัยไปเมื่อต้นสัปดาห์นี้
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติระบุในแถลงการณ์ว่า ประชาชนมากกว่า 600 คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุ, สตรีมีครรภ์ และเด็ก รวมถึงผู้พิการ ได้ถูกอพยพในวันนี้ (7 พ.ย.)
กระบวนการอพยพดำเนินไปตามระเบียบปฏิบัติด้านสุขภาพ โดยประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ผู้อพยพทุกคนต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างรวดเร็ว และบันทึกสภาวะสุขภาพก่อนเข้าไปยังสถานที่หลบภัย
สำนักงานด้านภัยพิบัติทางธรณีวิทยาของอินโดนีเซียได้เพิ่มสถานะเตือนภัยภูเขาไฟเมอราปีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาขึ้นสู่ระดับสูงสุดอันดับสอง เนื่องจากมีการปะทุของภูเขาไฟเพิ่มขึ้น และเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ลาวาถล่ม และเมฆก๊าซร้อนที่สามารถเดินทางได้ไกลถึง 5 กิโลเมตร หากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ
ทั้งนี้ ภูเขาไฟเมอราปียังคงคุกรุ่นและปะทุขึ้นเป็นประจำนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2091 โดยการปะทุครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 2553 ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 300 คน
อินโดนีเซียซึ่งเป็นหมู่เกาะขนาดใหญ่ที่มีประชากร 270 ล้านคนนั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด เนื่องจากประเทศตั้งอยู่ตามแนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) รอบมหาสมุทรแปซิฟิก