กูเกิล, เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ และเบน แอนด์ คอมพานีเปิดเผยรายงานฉบับใหม่ระบุว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการใช้บริการระบบดิจิทัลเพิ่มขึ้น เช่น อีคอมเมิร์ซ การจัดส่งอาหาร และการชำระเงินออนไลน์ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานระบุว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรกจำนวนมากถึง 40 ล้านรายในปี 2563 ใน 6 ประเทศได้แก่สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และไทย ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดในอาเซียนเพิ่มขึ้นแตะ 400 ล้านราย โดยผู้ใช้งานใหม่จำนวนมากมาจากพื้นที่นอกเขตเมืองในมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ การขยายตัวทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในปีนี้ เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการจ้างงานทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม รายงานคาดการณ์ว่า ภาคอินเทอร์เน็ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และแตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 โดยภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโต 63% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทางออนไลน์หดตัว 58% และโดยรวมแล้ว ภาคอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2568
"เราได้รับผลกระทบอย่างมากจากโรคโควิดทั่วโลก แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นแรงสนับสนุนที่เห็นว่า ยังคงมีความยืดหยุ่นในเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" สเตฟานี เดวิส รองประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกูเกิลกล่าวกับรายการ "Squawk Box Asia" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC
เดวิสกล่าวว่า "เมื่อเราถามผู้บริโภคว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกใช้อีคอมเมิร์ซในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พวกตอบว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับไวรัส แต่ส่วนที่สำคัญ พวกเขาตอบว่า เป็นเพราะอีคอมเมิร์ซมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์"