RDIF ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัสเซีย และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการผลิตวัคซีน Sputnik V ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของรัสเซีย ระบุว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า Sputnik V มีประสิทธิภาพ 92% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
"ข้อมูลบ่งชี้ว่าเรามีวัคซีนซึ่งมีประสิทธิภาพมาก" นายคิริลล์ ดมิเทรียฟ ผู้อำนวยการ RDIF กล่าว
RDIF เปิดเผยว่า ผลการทดลองดังกล่าวมาจากการทดลองวัคซีนต่ออาสาสมัครจำนวน 16,000 ราย ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม และการทดลองดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปอีก 6 เดือน โดยจะมีอาสาสมัครรวมทั้งสิ้น 40,000 ราย
RDIF ระบุว่า ขณะนี้ทางกองทุนได้ลงนามกับหลายประเทศเพื่อจัดส่งวัคซีน Sputnik V รวมทั้งสิ้น 270 ล้านโดส ขณะที่วัคซีนดังกล่าวจะมีการผลิตในหลายประเทศ เช่น อินเดีย บราซิล จีน และเกาหลีใต้
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียเตรียมอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นตัวที่ 3 ของประเทศ
ถ้อยแถลงของปธน.ปูตินดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งสองบริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
ทั้งนี้ ปธน.ปูตินประกาศเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้การอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยใช้ชื่อว่า Sputnik V แม้ว่าในขณะนั้นวัคซีนดังกล่าวใช้เวลาทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ไม่ถึง 2 เดือน และยังไม่มีการทดลองในเฟส 3 ขณะที่การทดลองทางคลินิกประสบความสำเร็จเพียง 10%
นอกจากนี้ รัสเซียได้ประกาศในเดือนต.ค.ว่า รัฐบาลให้การอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นตัวที่ 2 แม้ว่ายังไม่มีการเปิดเผยผลการทดลอง และยังไม่มีการเริ่มทดลองในเฟส 3