รัฐบาลอังกฤษประกาศลดจำนวนวันในการกักตัวผู้ที่เดินทางมายังประเทศอังกฤษลงเหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 14 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนธ.ค.เป็นต้นไป แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่เดินทางมายังอังกฤษนั้นจะต้องมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบหลังการกักตัวแล้ว 5 วัน
ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การเปิดเศรษฐกิจเป็นวงกว้างนั้น รัฐบาลอังกฤษประกาศว่า นโยบายใหม่ในการกักตัวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เป็นต้นไป โดยชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศอังกฤษจะสามารถขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากการกักตัวเป็นเวลา 5 วันแล้ว และหากผลตรวจเป็นลบ พวกเขาก็สามารถยุติการกักตัวได้
อย่างไรก็ดี นักเดินทางเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้อเอง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 65-120 ปอนด์ โดยการตรวจจะทราบผลภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง
ที่ผ่านมานั้น มาตรการกักตัว 14 วันของอังกฤษได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากบรรดาสายการบินและผู้ประกอบการท่าอากาศยาน นับตั้งแต่มาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรกได้ถูกยกเลิกในเดือนพ.ค. โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการกักตัวทำให้ประชาชนไม่อยากเดินทางเข้าสู่อังกฤษ
ด้านนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลจะประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ โดยจะกลับมาใช้ระบบควบคุมการแพร่ระบาดที่มีความเข้มงวดในหลายระดับสำหรับภูมิภาคที่มีความรุนแรงในการแพร่ระบาดแตกต่างกัน
นายจอห์นสันระบุว่า อังกฤษจะกลับมาใช้ระบบ tier สำหรับควบคุมการแพร่ระบาดในภูมิภาคต่างๆ โดยขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากมีการใช้คำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 2 ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.
ขณะนี้อังกฤษมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1.5 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 55,000 ราย