นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ เปิดเผยกับรายการ "Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า การออกมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ถือเป็นสิ่งจำเป็นมาก เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นแตะระดับ 13,608,038 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 272,254 ราย ส่งผลให้สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดในโลก
ทั้งนี้ นายแพทย์ฟอซี ซึ่งเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวด้วยนั้น กล่าวว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ การออกมาตรการที่เข้มงวดและการให้คำแนะนำด้านการเดินทางที่ปลอดภัยแก่ประชาชน ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังมาถึง
"เราเหลือเวลาอีกไม่นานก็จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ หากไม่มีการใช้มาตรการควบคุม เราก็อาจเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ผมไม่ต้องการให้ประชาชนหวาดกลัว แต่ผมต้องการเตือนว่าเราควรมีมาตรการควบคุมเพื่อไม่ให้ทุกอย่างสายเกินแก้" นายแพทย์ฟอซีกล่าว
นายแพทย์ฟอซียังกล่าวด้วยว่า แม้ก่อนหน้านี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้แนะนำชาวอเมริกันไม่ให้เดินทางในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในเดือนพ.ย. แต่ก็มีประชาชนกว่า 9 ล้านคนเดินทางโดยเครื่องบินในช่วงเทศกาลดังกล่าว และคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
นายแพทย์ฟอซีกล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้กำลังจะมีวัคซีนซึ่งจะช่วยยุติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ประชาชนไม่ควรชะล่าใจ และปล่อยการ์ดตก พร้อมกับแนะนำว่า ประชาชนที่เดินทางกลับจากการฉลองเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าควรสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างเคร่งครัด