นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดีบีเอส ระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนาอาจต้องรออีกนานหากต้องการจะใช้วัคซีนที่ผลิตจากฝั่งตะวันตก อย่างไรก็ดี ยังมีทางเลือกเป็นวัคซีนจากจีน
ไทเมอร์ เบก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และกรรมการผู้จัดการ DBS Group Research เปิดเผยว่า วัคซีนจากจีนดูน่าสนใจกว่าสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เมื่อลองนึกถึงจำนวนวัคซีนที่ต้องการใช้เป็นพันๆ ล้านโดส ประกอบกับความเสี่ยงที่จะต้องรอท้ายแถวเพื่อให้ได้ใช้วัคซีนจากฝั่งตะวันตก เพราะวัคซีนจากฝั่งตะวันตกถูกประเทศร่ำรวยจับจองไปแล้ว
นอกจากนี้ ข้อมูลของธนาคาร Citi ยังเผยว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วได้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่วงหน้าตามข้อตกลงร่วม คิดเป็นสัดส่วนรวมทั้งสิ้น 85% โดยสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป (EU) ต่างสั่งซื้อวัคซีนจนเกินจำนวนประชากรของตนแล้ว
ทางด้านจีนนั้นมีวัคซีนที่พัฒนาด้วยตนเองในขั้นทดลองระยะที่สามถึง 5 ตัว ซึ่งโดยปกติเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบวัคซีนเพื่ออนุมัติให้ใช้งาน
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า ซิโนฟาร์ม (SinoPharm) ซึ่งเป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์ของรัฐบาลจีน ได้ยื่นเอกสารกับทางการจีนเพื่อขออนุมัติวัคซีนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบริษัทมีวัคซีนที่อยู่ในขั้นทดลอง 2 ตัว แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าวัคซีนดังกล่าวอยู่ในระหว่างรออนุมัติทั้ง 2 ตัวเลยหรือไม่