รัฐบาลกรุงโซลประกาศแผนดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่พนักงานทุกคนในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงร้านอาหารและสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา
รายงานดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลจะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่ประชาชนทุกคนที่ทำงานในร้านอาหาร สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา คอลเซ็นเตอร์ สถานพยาบาล ศูนย์บริการดูแลเด็ก บริษัทขนส่ง และโรงงานตัดเย็บ ตลอดจนคนขับแท็กซี่และรถโดยสาร รวมถึงผู้ที่ทำงานในด้านบริการขนส่งสาธารณะ
ทั้งนี้ พนักงานที่ทำงานในสถานบริการที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวจะได้รับการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่คำนึงถึงอาการใดๆ
นายซอ จอง-ฮยอพ ผู้รักษาการนายกเทศมนตรีกรุงโซลแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนทางออนไลน์ว่า รัฐบาลกรุงโซลวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต่อวันสูงสุดแตะ 37,000 ครั้ง จากปัจจุบัน 10,000 ครั้งหรือมากกว่านั้น
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประชาชนในกรุงโซล 2,240 รายที่ไม่มีอาการใดๆ หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ สมัครใจเข้ารับการทดสอบหาเชื้อโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจากจำนวนทั้งหมด พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น 17 ราย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KCDC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 1,078 ราย ซึ่งเป็นสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 45,442 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวแซงหน้ายอดของวันอาทิตย์ที่ 1,030 ราย และแตะระดับตัวเลขหลักร้อยเป็นวันที่ 39 ติดต่อกันนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. อันเนื่องมาจากการติดเชื้อแบบกลุ่มในกรุงโซลและจังหวัดคย็องกี และการติดเชื้อจากต่างประเทศ
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบล่าสุดนั้น มี 373 รายอยู่ในกรุงโซล และ 320 รายอยู่ในจังหวัดคย็องกี