ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 พร้อมกันทั้งทวีปแล้วเมื่อวานนี้ โดยเริ่มให้วัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงก่อน เช่น แพทย์ พยาบาล และผู้สูงอายุ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติสมาชิก EU ทั้ง 27 ประเทศ ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมกันกว่า 16 ล้านราย และเสียชีวิตแล้วกว่า 336,000 ราย อย่างไรก็ดี มีบางประเทศได้เริ่มฉีดก่อนหน้าหนึ่งวันตั้งแต่วันเสาร์ เช่น เยอรมนี ฮังการี และสโลวาเกีย เนื่องจากยิ่งรอก็จะยิ่งเสียหาย
วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี โดยมีการจัดส่งจากโรงงานที่เบลเยียมถึงโรงพยาบาลทั่วยุโรปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ อย่างไรก็ดี แต่ละประเทศจะได้วัคซีนล็อตแรกไม่ถึง 10,000 โดส โดยยังต้องรอจัดส่งเพิ่มเติมในเดือนม.ค.
นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีวัคซีนที่กำลังพัฒนาอีกหลายตัว ทำให้ในอนาคต EU จะมีวัคซีนมากกว่าที่จำเป็นต้องใช้ และหากเป็นเช่นนั้นแล้ว EU ยินดีแบ่งวัคซีนส่วนเกินให้กับภูมิภาคอื่นๆ เช่น ภูมิภาคบอลข่านตะวันตกและแอฟริกา
ส่วนวัคซีนของโมเดอร์นาซึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสหรัฐไปแล้วนั้น ทางสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) จะจัดประชุมพิจารณาในวันที่ 6 ม.ค. เพื่อประเมินว่าจะอนุมัติหรือไม่