ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของแอฟริกา (Africa CDC) เปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วทวีปแอฟริกาพุ่งแตะ 2,830,462 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 แตะระดับ 67,246 ราย
ทั้งนี้ พื้นที่ทางตอนใต้ของทวีปมีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุด โดยแอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อ 1,100,748 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดของแอฟริกา ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 29,577 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดของแอฟริกาเช่นกัน
นายแมทท์ แฮนค็อก รมว.สาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้มีความเสี่ยง และสร้างความกังวลมากกว่าสายพันธุ์ที่พบในอังกฤษ
"ผมมีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราสั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่มาจากแอฟริกาใต้ นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่มาก และสร้างปัญหามากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ" นายแฮนค็อกกล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบีบีซี
ขณะนี้ อังกฤษและแอฟริกาใต้กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการกลายพันธุ์ และทำให้ไวรัสมีการแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถึงแม้ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่มีการแพร่ระบาดที่รวดเร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ไวรัสมีความรุนแรงมากขึ้น และคาดว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค รวมทั้งแอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดจะสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ศจ.จอห์น เบลล์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้มีความน่าวิตก เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ในหลายด้าน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโครงสร้างโปรตีนของไวรัส
ศจ.เบลล์กล่าวว่า ยังคงมีคำถามว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค รวมทั้งแอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดจะไร้ประสิทธิภาพในการรับมือต่อการกลายพันธุ์ดังกล่าวหรือไม่
ศจ.เบลล์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกำลังวิจัยผลกระทบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อวัคซีนในขณะนี้ แต่เขาเชื่อว่าวัคซีนดังกล่าวยังคงสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ แต่เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์แอฟริกาใต้