จีนประกาศเพิ่มมาตรการเชิงรุก หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศเพิ่มขึ้น

เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยว่า พวกเขากำลังเพิ่มความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่ภายในประเทศ ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ใกล้กรุงปักกิ่ง

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มณฑลเหอเป่ยซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่งได้เข้าสู่ "โหมดสงคราม" (wartime mode) หลังจากรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในมณฑลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 เดือน โดยทางมณฑลจะตั้งทีมสอบสวนเพื่อติดตามผู้ที่ประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ

ข้อมูลของวันอังคารที่ 5 ม.ค.ระบุว่า มณฑลเหอเป่ยรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 20 รายจากทั้งหมด 23 รายที่ได้รับการรายงานในจีน และมากกว่า 19 รายในระหว่างวันที่ 2-4 ม.ค. ขณะที่ยอดรวมของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีน ซึ่งรวมถึงยอดผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศลดลงแตะ 32 ราย จาก 33 รายของวันก่อนหน้า

แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจีนจะยังคงมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงการแพร่ระบาดสูงสุด แต่ทางการจีนยังคงดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 4,634 รายในจีน และมากกว่า 1.8 ล้านรายทั่วโลก

ทั้งนี้ หน่วยงานท้องถิ่นได้ดำเนินมาตรการป้องกันที่หลากหลาย อาทิ การตรวจหาเชื้อในหมู่คนจำนวนมาก การสั่งปิดโรงเรียน การจำกัดการเดินทางสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ศุลกากรของจีนยังดำเนินการตรวจสอบสินค้านำเข้าอยู่เป็นประจำเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19