บราซิลเปิดเผยว่า ผลการทดลองขั้นสุดท้ายของวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท ซิโนแวก ไบโอเทค ของจีน มีประสิทธิภาพ 78% ในการป้องกันโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยออกมาว่าวัคซีนตัวดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสได้ราว 50-90% จากการทดลองในบราซิล ซึ่งได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทจีนซึ่งจะถูกนำมาใช้ในบราซิล
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยันโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐซานเปาโลซึ่งระบุว่า ตัวเลขนี้มาจากการทดลองขั้นสุดท้ายที่ดำเนินการกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 13,000 คน ขณะที่วัคซีน mRNA ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา แสดงให้ประสิทธิภาพการป้องกันไวรัส 95% ในการทดลองขั้นเดียวกัน
นายดิมาส โควาส ผู้อำนวยการสถาบันบูตันตัน (Butantan Institute) ศูนย์วิจัยทางชีววิทยาและผู้ผลิตวัคซีนในรัฐเซาเปาลู ซึ่งกำลังร่วมมือกับซิโนแวกเพื่อผลิตวัคซีนมาใช้ในประเทศ กล่าวว่า วัคซีนของซิโนแวกมีประสิทธิภาพ 78% ในการป้องกันการติดเชื้อที่ไม่รุนแรง และ 100% ในการป้องกันไม่ให้คนไข้มีอาการปานกลางและรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัส
ทั้งนี้ สถาบันบูตันตันกำลังวางแผนที่จะขออนุมัติการใช้งานวัคซีนกรณีฉุกเฉินจาก Anvisa ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของบราซิลในวันศุกร์นี้ โดย Anvisa จะใช้เวลาประมาณ 10 วันในการวิเคราะห์คำขอดังกล่าว
นายโควาสเสริมว่า ผลการทดลองขั้นสุดท้ายพบว่า มีผู้เข้าร่วมการทดลองที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 220 คน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มได้รับวัคซีนหลอก 160 คนและอีกราว 60 คนอยู่ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจากซิโนแวก
อย่างไรก็ตาม นายโควาสปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษา รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มอายุและผลข้างเคียงของการฉีด ทั้งยังไม่ระบุว่าจะมีการเผยแพร่เอกสารฉบับเต็มออกมาเมื่อใด