ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เครื่องบินของสายการบิน ศรีวิจายา แอร์ ซึ่งได้รับรายงานว่าขาดการติดต่อ หลังขึ้นบินจากท่าอากาศยานจาการ์ตาเพียงไม่นาน เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 62 คน น่าจะตกลงนอกชายฝั่งทางเหนือของกรุงจาการ์ตา
นายบูดี คาร์ยา ซูมาดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของอินโดนีเซียออกมาแถลงว่า เครื่องบิน ศรีวิจายา แอร์ เที่ยวบิน SJY182 ขึ้นบินจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา ในกรุงจาการ์ตาเมื่อเวลา 14.36 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเดินทางไปยังเมืองปอนเตียนัค ในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก แต่ได้ขาดการติดต่อไปเมื่อเวลา 14.40 น.
นายซูมาดีระบุว่า "เครื่องบินลำดังกล่าวยังคงติดต่อกับหอบังคับการบินจาการ์ตาในเวลา 14.37 น. โดยมีการร้องขอว่าจะบินขึ้นไปที่ความสูง 29,000 ฟุต" พร้อมเสริมว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ได้สั่งการมาให้เร่งดำเนินการค้นหาและช่วยชีวิตโดยเร็วที่สุด
ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐมนตรีคมนาคมของอินโดนีเซียได้ยืนยันกับทางสำนักข่าวในภายหลังว่า เครื่องบินของสายการบิน ศรีวิจายา แอร์ ได้ตกลงใกล้กับเกาะลากี ในเขตเกาะเทาต์ซัน ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปไม่ไกล
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาพบซากวัตถุที่คาดว่าจะเป็นของเครื่องบินที่หายไป รวมถึงชิ้นส่วนของเครื่อง สายไฟฟ้า และเศษเสื้อผ้า ในบริเวณเดียวกันนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในจำนวนผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องโบอิ้ง 737-500 ทั้ง 62 คนนี้ มีเด็ก 10 คนซึ่งรวมถึงทารก 3 คน และลูกเรือ 12 คน
ขณะที่ศรีวิจายา แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินโลว์คอสต์ของอินโดนีเซีย ได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางการสายบินยังไม่สามารถให้รายละเอียดอื่นๆ ได้ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม