ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ วันพุธที่ 13 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะระดับ 23,029,450 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 383,939 ราย
รัฐแคลิฟอร์เนียมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด โดยอยู่ที่ 2,821,512 ราย ตามด้วยรัฐเท็กซัส 2,032,809 ราย และรัฐฟลอริดา 1,517,472 ราย ขณะเดียวกันรัฐนิวยอร์กและรัฐอิลลินอยส์ต่างก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 1 ล้านราย
ส่วนรัฐอื่นๆ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 6 แสนราย ได้แก่ โอไฮโอ จอร์เจีย เพนซิลวาเนีย เทนเนสซี แอริโซนา นอร์ทแคโรไลนามิชิแกน และนิวเจอร์ซีย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุด เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ครองสัดส่วนมากกว่า 24% ของยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก และมากกว่า 19% ยอดของผู้เสียชีวิตทั่วโลก
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อของสหรัฐแตะ 20 ล้านรายในวันที่ 1 ม.ค. และเพิ่มขึ้น 1 ล้านรายในทุกๆ 4 วัน
เมื่อวันอังคาร (12 ม.ค.) สหรัฐตรวจพบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 4,462 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด นับตั้งแต่การระบาดใหญ่อุบัติขึ้นมา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยคาดการณ์ล่าสุดเมื่อวันพุธ (13 ม.ค.) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐอาจแตะ 440,000-477,000 ราย ภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้