นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษแสดงความหวังว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้บางส่วนในเดือนมี.ค. ในขณะที่อังกฤษและชาติยุโรปกำลังเร่งผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในยุโรป ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็นต่างก็ถูกสั่งให้ระงับการดำเนินการ ขณะที่ประชาชนก็ได้รับคำสั่งให้ทำงานจากที่บ้านหากเป็นไปได้
นายร้าบได้เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษว่า "เราต้องออกจากการล็อกดาวน์ทั่วประเทศให้เร็วที่สุด ในต้นฤดูใบไม้ผลินี้ ซึ่งผมหวังว่าน่าจะภายในเดือนมี.ค. เราจะอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าทางที่ดี เรายังไม่ควรยกเลิกทั้งหมดในครั้งเดียว แต่น่าจะต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเริ่มดำเนินการในระดับภูมิภาค"
ก่อนหน้านี้ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีโรคประจำตัว และบุคลากรแนวหน้า ให้ได้ 14 ล้านคน ภายในช่วงกลางเดือน ก.พ. ก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่า อังกฤษจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้เมื่อทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ด้านนายไซมอน สตีเวนส์ ผู้บริหารสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอสของอังกฤษ กล่าวว่า โครงการวัคซีนของอังกฤษมีจุดเริ่มต้นที่ดีมาก แต่ 1 ใน 4 ของผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีอายุต่ำกว่า 55 ปี ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของโครงการ
นายสตีเวนส์ได้แสดงความเห็นถึงการผ่อนคลายล็อกดาวน์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า "แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงวันวาเลนไทน์หรือ 15 ก.พ. แต่ผมก็ไม่คิดว่าเราจะต้องรอกันไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง"