หน่วยงานด้านสุขภาพของนอร์เวย์ระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเสียชีวิตของผู้สูงอายุหลายราย ซึ่งนับเป็นความพยายามที่จะคลายความกังวลที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนต้านโรคโควิด-19 หลังจากที่มีรายงานว่าผู้สูงอายุเสียชีวิตหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์
รายงานเบื้องต้นของนอร์เวย์ได้ทำให้เกิดความตื่นตระหนก ขณะที่ทั่วโลกกำลังมองหาสัญญาณเริ่มต้นของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากวัคซีน โดยแพทย์ได้ออกมาให้เหตุผลว่ามีความเป็นไปได้ที่ผลข้างเคียงอาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่ผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราจะเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนเพียงไม่นาน เนื่องจากการเสียชีวิตจะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอและมีอาการเจ็บป่วย
"เห็นได้ชัดว่า โควิด-19 เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยมากกว่าการฉีดวัคซีน" ไซนาร์ เมดเซน ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของสำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ (The Norwegian Medicines Agency: NMA) เปิดเผยผ่านโทรศัพท์เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) พร้อมเสริมว่า การเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนและการเสียชีวิตนั้นเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ แต่เราก็ไม่ได้ตื่นตระหนก
NMA ระบุว่า จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้เสียชีวิตหลังจากที่ได้รับวัคซีนในนอร์เวย์แล้วจำนวน 33 ราย โดยทั้งหมดมีอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป และมีอาการป่วยอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่นอร์เวย์ได้ฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านพักคนชราไปแล้วมากกว่า 48,000 ราย เมื่อนับถึงช่วงบ่ายวานนี้
เมดเซนกล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวนั้นไม่ถึง 1 ต่อ 1,000 รายจากจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนทั้งหมดซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา และในบางกรณีผลข้างเคียงของวัคซีนก็อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่เราก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้