นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ ของเยอรมนี มีมติเห็นพ้องร่วมกันว่า เยอรมนีจะขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. จากเดิมซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค. โดยมติดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ว่าการรัฐทั้ง 16 รัฐของเยอรมนีว่า "นี่เป็นเวลาที่เราต้องใช้มาตรการป้องกันภัยคุกคามจากไวรัส"
ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นั้น โรงเรียนและร้านค้าส่วนใหญ่จะยังคงปิดดำเนินการ และประชาชนยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม และอยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังเพิ่มความเข้มงวดในการสั่งให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในระหว่างเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยกำหนดให้ใช้หน้ากากที่ใช้ทางการแพทย์ หรือหน้ากากป้องกันฝุ่น KN95/N95 หรือหน้ากากแบบ FFP2 สำหรับผู้ที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือออกไปจับจ่ายซื้อของตามร้านค้าต่างๆ
ข้อมูลจากสถาบัน Robert Koch Institute ระบุว่า เยอรมนีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 11,369 รายในวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 2.05 ล้านราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 989 ราย ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 47,622 ราย