ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเสียตำแหน่งสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชียให้กับท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนของเกาหลีใต้ หลังการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การท่องเที่ยวซบเซาลง
ในปี 2563 ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงมีผู้โดยสารมาใช้บริการอยู่ที่ 8.84 ล้านคน ลดลง 88% จากปี 2562 ส่งผลให้ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงตกไปอยู่อันดับ 3 รองจากท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางมาอยู่ที่ 11.96 ล้านคน ส่วนท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์มีผู้โดยสารอยู่ที่ 11.8 ล้านคน
เมื่อปี 2562 สนามบินทั้งสามแห่งมีผู้โดยสารมาเยือนรวมกันกว่า 60 ล้านคน แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากความต้องการเดินทางลดลง
สนามบินฮ่องกงและสิงคโปร์นั้นได้รับผลกระทบเป็นพิเศษ เพราะฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นดินแดนเล็กๆ ไม่มีที่ให้เที่ยวมากนัก จึงไม่มีนักท่องเที่ยวเหมือนประเทศอื่นๆ ที่ยังพอบินไปเที่ยวต่างจังหวัดได้ และไม่ค่อยมีผู้โดยสารมาต่อเครื่องเนื่องจากมาตรการควบคุมการเดินทาง
นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวในฮ่องกงเองยังลดลงในช่วงครึ่งหลังปี 2562 จากเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาล
ทั้งนี้ เมื่อช่วงกลางเดือนต.ค.ปีที่แล้ว สิงคโปร์และฮ่องกงได้บรรลุข้อตกลงเพื่อสร้างช่องทางการเดินทางทางอากาศระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว (Air Travel Bubble) เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวไม่ต้องถูกกักตัว แต่ต้องถูกระงับไปเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ได้เริ่มทดลองให้บริการตรวจหาเชื้อก่อนออกเดินทางให้กับผู้โดยสารในสัปดาห์นี้
ส่วนสนามบินแห่งอื่นๆ นั้น ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ของอังกฤษก็เสียตำแหน่งสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในยุโรป ให้กับท่าอากาศยานอิสตันบูลและท่าอาศยานชาร์ลเดอโกล หลังยอดผู้โดยสารลดลง 73% ในปี 2563