รัฐบาลหลายประเทศในยุโรปแสดงความไม่พอใจต่อบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ขณะที่บางประเทศ เช่น อิตาลี ขู่ดำเนินการทางกฎหมาย หลังจากที่ทางบริษัทได้ลดการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ในขณะนี้
รัฐบาลโรมาเนียเปิดเผยว่า ไฟเซอร์ได้ลดการส่งมอบวัคซีน 50% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่จะค่อยๆเพิ่มจำนวนการส่งมอบในภายหลัง แต่การส่งมอบจะยังไม่กลับสู่ระดับปกติ จนกว่าจะถึงปลายเดือนมี.ค.
โปแลนด์ก็ถูกลดการส่งมอบวัคซีนเหลือเพียง 50% เช่นกัน ส่วนสาธารณรัฐเชคก็เผชิญปัญหาขาดแคลนวัคซีนเช่นเดียวกัน จนส่งผลกระทบต่อโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้แก่ประชาชน
ทางด้านเดนมาร์กระบุว่า การที่ไฟเซอร์ลดการส่งมอบวัคซีน 50% ในสัปดาห์นี้ จะทำให้เกิดการขาดแคลนวัคซีน 10% ในไตรมาสแรก
รัฐบาลฮังการีเรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ทำการเจรจากับไฟเซอร์เพื่อให้มีการส่งมอบวัคซีนอย่างตรงเวลา
นอกจากนี้ ประเทศที่อยู่นอก EU เช่น สวิตเซอร์แลนด์และแคนาดาก็ถูกไฟเซอร์ลดการส่งมอบวัคซีนเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทจะทำการปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จึงทำให้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งมอบวัคซีนเป็นการชั่วคราว
ไฟเซอร์ระบุว่า ปริมาณการส่งมอบวัคซีนจะลดลงตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนนี้จนถึงต้นเดือนหน้า โดยกระทบต่อการส่งมอบวัคซีนทุกประเทศในยุโรป แต่การส่งมอบจะเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปลายเดือนหน้า
นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฟเซอร์ กล่าวว่า เขามีความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนสู่ระดับ 2 พันล้านโดสในปีนี้