นายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า ฟิลิปปินส์เตรียมผ่อนคลายคำสั่งห้ามผู้เดินทางจากกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้าประเทศ โดยจะมีผลในเดือนก.พ.นี้
นายโร้กระบุในแถลงการณ์ว่า คำสั่งห้ามนักเดินทางต่างชาติจาก 36 ประเทศและภูมิภาค เช่น อังกฤษ จีน และสหรัฐ เดินทางเข้าฟิลิปปินส์นั้น จะมีผลถึงวันที่ 31 ม.ค.นี้ และสิ้นสุดลงหลังจากวันดังกล่าว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุด้วยว่า พลเมืองต่างชาติคนใดที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟิลิปปินส์ตามที่ระบุไว้ในคำสั่งก่อนหน้า รวมถึงผู้ที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว จะยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฟิลิปปินส์
นายโร้กได้ระบุย้ำด้วยว่า นักเดินทางที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจะยังคงต้องกักตัว 14 วัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายโร้กยังประกาศด้วยว่า นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังคงสั่งบังคับใช้มาตรการกักกันชุมชนในกรุงมะนิลาต่อไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ.เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายโร้กระบุด้วยว่า นอกจากกรุงมะนิลาแล้ว ปธน.ดูเตอร์เตยังได้สั่งให้หลายจังหวัดทั่วประเทศอยู่ภายใต้ข้อกำหนดเดียวกัน ขณะที่หลายจังหวัดในส่วนอื่นๆ ของฟิลิปปินส์นั้นอยู่ภายใต้มาตรการที่ผ่อนคลายกว่า
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั้งหมด 519,575 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 10,552 ราย