นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี แพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า สถานการณ์หลังผ่านพ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งนับว่าตรงกับเป้าหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ประกาศในสัปดาห์นี้ว่า สถานการณ์หลังโควิดจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้
นายแพทย์ฟอซีซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ (NIAID) คาดการณ์ว่า ชาวอเมริกันจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ (ก.ย.-พ.ย.) หลังจากที่รอคอยมายาวนาน
อย่างไรก็ดี นายแพทย์ฟอซีกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ MSNBC ว่า ยังมีอีกหลายๆ ปัจจัย เช่น การเกิดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่า ชาวอเมริกันจะสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้หรือไม่ โดยเขาระบุว่า หากพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็ว ก็อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการไปจากแผนเดิม แต่เขาก็ยังหวังว่า สถานการณ์จะกลับเป็นปกติได้ภายในฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว
นอกจากนี้ นายแพทย์ฟอซียังคาดว่า ชาวอเมริกันน่าจะสามารถเข้าใช้บริการโรงภาพยนตร์และร้านอาหารในอาคารแบบจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้ได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่การใช้ชีวิตในลักษณะใกล้เคียงกับก่อนเกิดโรคระบาดนั้นน่าจะสามารถทำได้ในช่วงปลายปีหรือในช่วงเทศกาลคริสต์มาสตามที่ท่านประธานาธิบดีได้ประกาศไว้"
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ฟอซีได้กล่าวเสริมว่า "ประชาชนอาจจะยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไป"