ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ลงนามในกฎหมายตั้งกองทุนวงเงิน 500 ล้านเปโซ (10.3 ล้านดอลลาร์) หรือราว 300 ล้านบาท เพื่อชดเชยชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19
นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวจะให้การคุ้มครองบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไม่ถูกดำเนินคดีจากผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
การออกกฎหมายดังกล่าวมีขึ้น ตามข้อเรียกร้องของบริษัทไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19
ความล่าช้าในการออกกฎหมายฉบับนี้ ได้ส่งผลทำให้ฟิลิปปินส์ยังคงไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 117,000 โดสจากบริษัทไฟเซอร์ตามโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์หวังที่จะใช้วัคซีนล็อตดังกล่าวฉีดให้แก่ประชาชนในกลางเดือนก.พ.
ตามกฎหมายดังกล่าว ผู้ที่จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้แก่ ผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จนถึงแก่ชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร หรือต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจะต้องยื่นเรื่องขอรับเงินชดเชยภายในเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ที่ได้รับการฉีดวัคซีน
ทางด้านปธน.ดูเตอร์เตเตรียมเป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีน CoronaVac ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวก ไบโอเทค จำนวน 600,000 โดสในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งรัฐบาลจีนบริจาคให้แก่ฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวถือเป็นวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกของประเทศ โดยฟิลิปปินส์นับเป็นประเทศสุดท้ายในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19
นอกจากนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนจำนวน 7 บริษัทเพื่อซื้อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 148 ล้านโดสเพื่อฉีดให้แก่ประชากรจำนวน 50-70 ล้านคนในปีนี้ จากประชากรทั้งหมดกว่า 108 ล้านคน
ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 571,327 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย
ส่วนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ระดับ 12,247 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนเช่นกัน