ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดเผยว่า การตัดสินใจยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยเป็นความคิดที่ผิดพลาด เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากโรคโควิด-19
ปธน.ไบเดนได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า "ผมคิดว่านี่เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ผมหวังว่าทุกคนจะคิดได้ว่า การสวมหน้ากากอนามัยสร้างการเปลี่ยนแปลงได้"
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่นายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส และนายเทท รีฟส์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี ได้ประกาศยกเลิกข้อบังคับการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ
ปธน.ไบเดนยังระบุด้วยว่า ประชาชน 511,000 รายในสหรัฐเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และอาจต้องใช้เวลาเพื่อให้ผู้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับการฉีดวัคซีนจนครบทุกคน
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้การเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะช่วยให้การควบคุมโรคระบาดได้ผล แต่การสวมหน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือ และการเว้นระยะห่างทางสังคมก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่