นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และบรรดาผู้นำรัฐต่างเห็นพ้องกันว่าจะทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เป็น 5 ระยะ แต่ได้เพิ่ม "เบรกฉุกเฉิน" เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถกลับมากำหนดข้อจำกัดอีกครั้งได้ หากไม่สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19
ขณะที่ใกล้จะถึงการเลือกตั้งในประเทศนั้น นางแมร์เคิลและผู้นำระดับภูมิภาคได้เผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นในการกำหนดแผนฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ หลังจากที่ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์มาร่วม 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม ยอดผู้ติดเชื้อรายวันกำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่มีประชากรเพียง 5% เท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรก
นางแมร์เคิลระบุว่า "เราใกล้เข้าสู่ระยะใหม่ของการแพร่ระบาดที่เราต้องไม่ประมาท และยังคงมีความคาดหวังที่เหมาะสม" นางแมร์เคิลแถลงต่อสื่อมวลชน หลังจากการเจรจากับผู้นำระดับภูมิภาค
บรรดาผู้นำเห็นพ้องที่จะขยายช่วงเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่ 2 ซึ่งอาจจะทำให้สามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากนี้ พวกเขายังคาดหวังว่าคณะกรรมการด้านวัคซีนจะดำเนินการตัดสินใจเร็วๆนี้ สำหรับการฉีดวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้แก่ประชาชนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถปรับตารางการฉีดวัคซีนให้เหมาะสมได้
ปัจจุบัน เยอรมนีอนุญาตให้ประชากรที่มีอายุระหว่าง 18-64 ปีเท่านั้นที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่งผลให้การฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ และชะลอความพยายามในการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ภายใต้แผนการผ่อนปรน 5 ขั้นตอนนั้น ทางการเยอรมนีจะอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 5 คนจาก 2 ครัวเรือนนับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.เป็นต้นไป ยกเว้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี ส่วนร้านค้าบางแห่ง รวมถึงร้านหนังสือและสวนต่างๆ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้