นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19 นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขณะที่โรงเรียนต่างๆ กลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง และเด็กๆ หลายล้านคนกลับเข้าชั้นเรียนทั่วประเทศ
นายจอห์นสันแถลงต่อสื่อมวลชนว่า "เรายอมรับว่า แน่นอนจะมีความเสี่ยงจากการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้"
อย่างไรก็ตาม นายจอห์นสันระบุว่า "แต่ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ การกันเด็กออกจากโรงเรียนนานขึ้นกว่าเดิม"
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา นายจอห์นสันประกาศแผนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ 4 ขั้นตอน โดยการเปิดโรงเรียนนั้นนับเป็นขั้นตอนแรกในแผนการนี้ และนายจอนห์สันเสริมว่า แผนการนี้จะดำเนินไป "อย่างระมัดระวัง แต่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำหรับขั้นแรก ประชาชนจะได้รับอนุญาตให้รวมกลุ่มกันในที่สาธารณะได้ไม่เกิน 2 คน ซึ่งหมายความว่า ประชาชนสามารถนั่งจิบกาแฟ ดื่มเครื่องดื่ม หรือปิกนิกในที่สาธารณะ และรัฐบาลอังกฤษคาดว่าจะยกเลิกมาตรการเข้มงวดทางสังคมทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.เป็นต้นไป
นายจอห์นสันระบุว่า รัฐบาลสามารถดำเนินการขั้นตอนแรกในแผนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างมั่นใจ เพราะ 1 ใน 3 ของประชากรอังกฤษทั้งหมดได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว
"เราจะพิจารณาข้อมูลตลอดเวลา" นายจอห์นสันกล่าว
ทั้งนี้ อังกฤษได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศแล้วมากกว่า 22.3 ล้านราย