นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า เขาคาดหวังว่าสิงคโปร์จะกลับมาเปิดพรมแดนได้อีกครั้งในภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่หลายประเทศเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน
"ผมคาดหวังว่า หากหลายประเทศดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้เป็นจำนวนมากภายในสิ้นปีนี้ เราก็มีความมั่นใจพอที่จะพัฒนาระบบการจัดการเพื่อเปิดทางให้ทุกคนเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้อีกครั้ง" นายลีกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์
"เราหวังว่าจะสามารถเปิดประเทศได้ภายในช่วงปลายปีนี้หรือปีหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านั้น" นายลีกล่าวเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกคำสั่งระงับการเดินทางเข้าประเทศสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยยังอนุญาตให้ผู้ประกอบการธุรกิจและเจ้าหน้าที่รัฐเดินทางเข้าประเทศได้เป็นบางกรณี และได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการใช้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกับประเทศอื่นๆ ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า สิงคโปร์สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศรายใหม่เพียงไม่กี่ราย และได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนแล้วโดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทค และโมเดอร์นา
ข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 8 มี.ค. ระบุว่า สิงคโปร์ซึ่งมีประชากร 5.7 ล้านคนนั้น ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้วกว่า 611,000 โดส ซึ่งยังนับว่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีประชากรมากกว่า อย่างไรก็ดี รัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันว่ามีแผนจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนครบทุกคนภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังได้รับวัคซีนของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทคของจีนมาก่อนที่จะมีการรับรอง โดยในประเด็นนี้นายลีได้กล่าวว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของสิงคโปร์ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบวัคซีนดังกล่าว และจะนำไปฉีดให้ประชาชนเช่นกันหากวัคซีนนั้นผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ