ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศในวันนี้ว่า ฝรั่งเศสจะระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อรอการประเมินความปลอดภัยจากองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ในวันพรุ่งนี้ หลังมีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนบางราย
"เราได้ตัดสินใจระงับการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้าตามนโยบายเกี่ยวกับยุโรปของเรา และเราจะกลับมาฉีดวัคซีนดังกล่าวอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หาก EMA ให้คำแนะนำในเชิงบวกเกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้" ปธน.มาครงกล่าว
ขณะเดียวกัน เยอรมนีได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในวันนี้เช่นกัน โดยให้มีผลในทันที ท่ามกลางความกังวลหลังมีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน
"หลังจากที่มีรายงานใหม่เกี่ยวกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมองที่เชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีนในเยอรมนีและยุโรป ทางสถาบันพอล เออร์ลิช ก็ได้แถลงถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการสืบค้นในเรื่องนี้" แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีระบุ
กระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีแถลงว่า การระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าถือเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า และเป็นไปตามคำแนะนำของสถาบันพอล เออร์ลิช ซึ่งเป็นองค์กรกำกับนโยบายวัคซีนแห่งชาติของเยอรมนี
ก่อนหน้านี้ เดนมาร์ก ออสเตรีย นอร์เวย์ ไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี บัลแกเรีย ลักเซมเบิร์ก เอสโทเนีย ลิธัวเนีย ลัตเวีย โรมาเนีย ต่างก็ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หลังมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากอาการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ และบางรายมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดหลังได้รับวัคซีน
ส่วนประเทศนอก EU เช่น อินโดนีเซียและคองโก ก็ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน