ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวประณามการก่อเหตุรุนแรงกับชาวเอเชียในสหรัฐ โดยได้เตือนว่าการเพิกเฉยเท่ากับเป็นการสมรู้ร่วมคิดหลังจากที่เกิดเหตุกราดยิงในแอตแลนตา รัฐจอร์เจียซึ่งมีผู้เสียชีวิต 8 รายรวมถึงสตรีชาวเอเชีย 6 รายในสัปดาห์นี้
ปธน.ไบเดนกล่าวที่มหาวิทยาลัยอิมอรีในแอตแลนตาหลังประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำชุมชนเอเชีย-อเมริกันเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) ว่า เขายอมรับว่ามีความเกลียดชังชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียพุ่งขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา ขณะที่นางแฮร์ริสเตือนว่า การเหยียดสีผิว, ความเกลียดกลัวชาวต่างชาติ และการกีดกันทางเพศ ล้วนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐ และดำรงอยู่มาโดยตลอด
"ไม่ว่าจะด้วยแรงจูงใจอะไรก็ตาม" ปธน.ไบเดนกล่าวถึงเหตุผลเบื้องหลังของการกราดยิงที่แอตแลนตา "เราทราบดีว่า มีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียจำนวนมากเดินอยู่ตามท้องถนนและมีความวิตกกังวล โดยพวกเขาตื่นขึ้นมาทุกเช้าในปีที่ผ่านมาด้วยความรู้สึกว่า พวกเขาและคนที่พวกเขารักนั้นไม่มีความปลอดภัย พวกเขาได้ถูกทำร้าย, ถูกตำหนิ, ตกเป็นเหยื่อ และถูกล่วงละเมิด นอกจากนี้ พวกเขายังถูกทำร้ายด้วยวาจา, ทำร้ายร่างกาย และถูกฆ่า"
สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันพุธ (17 มี.ค.) ว่า เกิดเหตุกราดยิง 3 ครั้งในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจียของสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
สำนักงานนายอำเภอของเชอโรกี เคาน์ตี้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดหรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผู้เสียชีวิต และยังไม่ได้เปิดเผยแรงจูงใจในเหตุกราดยิงดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยคือนายโรเบิร์ต แอรอน ลอง วัย 21 ปี โดยคาดว่านายโรเบิร์ตเป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงทั้ง 3 ครั้ง