นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (23 มี.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอยู่ระหว่างการพิจารณาออกคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาวุธปืน
"เรากำลังพิจารณาการใช้กลไกในหลายระดับ ทั้งการใช้กระบวนการนิติบัญญัติและการออกคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี ในประเด็นกฎหมายควบคุมอาวุธปืน รวมไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในชุมชนต่างๆ โดยขณะนี้มีการหารือเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง และจะยังคงมีการหารือกันต่อไป" นางซากีกล่าวในแถลงต่อผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องแอร์ ฟอร์ซ วัน
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์นี้ หลังเกิดเหตุกราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโดเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งเป็นเหตุกราดยิงในแอตแลนตา รัฐจอร์เจียที่มีผู้เสียชีวิต 8 ราย
แม้ว่าเหตุกราดยิงเหล่านี้จะยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยถึงแรงจูงใจของผู้ต้องสงสัยทั้งสองราย แต่ปธน.ไบเดนก็ได้ออกมาประนามการใช้ความรุนแรง โดยเมื่อวานนี้ ปธน.ไบเดนได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายห้ามขายอาวุธร้ายแรงและที่ใส่กระสุนความจุสูง
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังได้ขอให้วุฒิสภาสหรัฐเร่งผ่านร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืน 2 ฉบับ ได้แก่ กฎหมาย Bipartisan Background Checks Act และ Enhanced Background Checks Act ที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบให้ผ่านร่างกฎหมายไปเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยกฎหมาย 2 ฉบับนี้จะเพิ่มความรัดกุมในขั้นตอนของการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องการซื้ออาวุธปืน