นายแพทย์สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) คาดการณ์ว่า สหรัฐจะไม่เผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่สี่ พร้อมกับแนะนำว่า สหรัฐควรรออีก 2-3 สัปดาห์ก่อนจะผ่อนคลายนโยบายควบคุมโรคระบาด
นายแพทย์ก็อตต์ลีบให้สัมภาษณ์ในรายการ "Face the Nation" ของสถานีโทรทัศน์ CBS News โดยยอมรับว่า คนวัยหนุ่มสาวเป็นตัวการแพร่เชื้อโควิด-19 ในหลายรัฐ แต่การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่เลวร้ายอีกครั้ง
"ตอนนี้มีชาวอเมริกันราว 200 ล้านคนที่มีภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ในระดับหนึ่ง ผมคิดว่าเราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้มากพอที่จะไม่ทำให้เกิดการระบาดรอบที่ 4" นายแพทย์ก็อตต์ลีบกล่าว
"สำหรับโรงเรียนนั้น ผมคิดว่าเรายังต้องปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายอย่างเข้มงวด" นายแพทย์ก็อตต์ลีบให้สัมภาษณ์และเพิ่มเติมว่า การสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคมยังเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไปสู่กลุ่มใหญ่ "หากมีการปฏิบัติตามนี้ในโรงเรียน ผมคิดว่าน่าจะเพิ่มความปลอดภัยได้ ผมเชื่อว่าประโยชน์ของการไปโรงเรียนย่อมมีมากกว่าความเสี่ยงจากการติดเชื้อ"
ขณะนี้ สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นใน 27 รัฐ รวมถึงกรุงวอชิงตัน โดยการระบาดที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพราะการกลับมาเปิดเรียน
ปัจจุบัน มีชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส ซึ่งครอบคลุมประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 40% ของทั้งประเทศ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 เม.ย.) สหรัฐได้ฉีดวัคซีนไปมากกว่า 4 ล้านโดส