รัฐบาลฝรั่งเศสเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนาดใหญ่ขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติสตาดเดอฟร็องส์ (Stade de France) ทางตอนเหนือของกรุงปารีส เพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน และระบายความแออัดในโรงพยาบาล
"เราต้องการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด... ศูนย์ดังกล่าวจะรองรับการฉีดวัคซีนได้ 10,000 คนต่อสัปดาห์" นายฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวระหว่างเดินทางไปยังสนามกีฬาขนาด 8 หมื่นที่นั่งดังกล่าวซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2541
ทั้งนี้ ตามแผนการฉีดวัคซีนของฝรั่งเศสนั้น รัฐบาลได้ตั้งเป้าเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ราว 40 แห่งในเดือนนี้ รวมถึงอนุญาตให้ฉีดวัคซีนได้ตามคลินิกของแพทย์และร้านขายยา
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสรายงานว่า นับจนถึงปัจจุบัน มีประชาชนในฝรั่งเศสกว่า 9.5 ล้านคนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส คิดเป็น 18.1% ของประชาชนในวัยผู้ใหญ่ ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้วอยู่ที่ 3.2 ล้านคน
"ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับความยากลำบากจากการระบาดรอบที่สาม" นายกัสเต็กซ์กล่าว และย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนว่า "การฉีดวัคซีนจะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤติที่เลวร้ายนี้ไปได้"
ขณะที่เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นจาก 193 ราย มาอยู่ที่ 5,626 ราย สูงกว่ายอดดังกล่าวที่รายงานเมื่อเดือนพ.ย. 2563 ซึ่งอยู่ที่ 4,919 ราย โดยในขณะนั้น ฝรั่งเศสอยู่ในช่วงล็อกดาวน์รอบ 2 เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 732 ราย ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในรอบเกือบ 5 เดือน ขณะที่ยอดผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ที่ 30,639 ราย ทะลุระดับ 30,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา