นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ว่า แผนการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่ทะเลจะไม่สามารถถูกเลื่อนอีกต่อไป
"เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และไม่สามารถล่าช้าอีกต่อไป" นายซูงะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการตรวจสอบประจำสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น
นายซูงะระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเผชิญหน้าต่อเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และรัฐบาลจะออกคำชี้แจงโดยมีเหตุผลสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์ต่อทุกฝ่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจแล้วที่จะปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่ทะเล แม้หลายฝ่ายแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดการประชุมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเร็วที่สุดในวันพรุ่งนี้ เพื่อทำการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แม้ประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่น เช่น จีนและเกาหลีใต้ รวมทั้งอุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นเอง จะออกมาคัดค้านเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะประกาศการตัดสินใจดังกล่าวในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่มีการถกเถียงในเรื่องนี้นานกว่า 7 ปี แต่ก็เลื่อนการตัดสินใจออกไปเพื่อให้มีเวลาสำหรับการหารือมากขึ้น
ทางการญี่ปุ่นอ้างว่า การทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เพียงเล็กน้อย และบริษัทโตเกียว อิเลกทริก พาวเวอร์ (TEPCO) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จำเป็นต้องทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล เนื่องจากทางบริษัทขาดแคลนสถานที่ในการกักเก็บน้ำที่ผ่านการบำบัดดังกล่าว
ทั้งนี้ TEPCO ได้กักเก็บน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีมากกว่า 1 ล้านตันจากท่อหล่อเย็นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ นับตั้งแต่ที่ประสบความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิในปี 2554 และทางบริษัทจะไม่มีสถานที่ในการกักเก็บน้ำบำบัดดังกล่าวภายในปีหน้า