ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศว่าจะถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานก่อนวันที่ 11 ก.ย.นี้ เพื่อยุติสงครามที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
"สหรัฐจะเริ่มถอนกำลังทหารครั้งสุดท้ายของเราตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ของปีนี้" ปธน.ไบเดนแถลงที่ทำเนียบขาว "กองกำลังทหารของสหรัฐ รวมถึงกองกำลังทหารของของชาติพันธมิตรนาโต้และพันธมิตรด้านปฏิบัติการของเราจะออกจากอัฟกานิสถานก่อนวันครบรอบ 20 ปีเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย."
"ถึงเวลายุติสงครามที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐแล้ว และถึงเวลาแล้วที่ทหารสหรัฐจะต้องกลับบ้าน" ปธน.ไบเดนระบุ พร้อมเสริมว่า สหรัฐได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการต่อต้านการก่อการร้ายในอัฟกานิสถานแล้ว
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนระบุอย่างชัดเจนว่า การถอนกำลังทหารครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ
"เราไม่สามารถดำเนินการขยายหรือเพิ่มฐานทัพของเราในอัฟกานิสถานอีกต่อไป โดยหวังจะสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการถอนตัวและคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป" ปธน.ไบเดนระบุ "ตอนนี้ผมเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ของสหรัฐที่เป็นประธานในการดำเนินงานของกองกำลังทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน โดยเป็นประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน 2 คน และของพรรคเดโมแครต 2 คน ผมจะไม่ส่งต่อความรับผิดชอบนี้ให้กับประธานาธิบดีคนที่ 5" ไบเดนเสริม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันที่ 11 ก.ย. ที่กำลังจะมาถึงนี้เป็นวันครบรอบ 20 ปีของการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ทำให้สหรัฐเข้าร่วมสงครามในอัฟกานิสถาน ปธน.ไบเดนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐเสียชีวิต 2,488 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 20,722 นายในสงครามที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปธน.ไบเดนได้เน้นย้ำว่า สหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลอัฟกานิสถานและให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพอัฟกานิสถานภายหลังจากการถอนตัว โดยระบุว่า "แม้ว่าเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการทหารในอัฟกานิสถาน แต่งานด้านการทูตและมนุษยธรรมของเราก็จะดำเนินต่อไป"
ขณะเดียวกัน ปธน.ไบเดนเปิดเผยว่า สหรัฐสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานและกลุ่มตาลีบัน ซึ่งทางสหประชาชาติ (UN) อำนวยความสะดวกในการเจรจา