รัฐบาลออสเตรเลียอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดให้นักกีฬาโอลิมปิกอยู่ในกลุ่มผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นอันดับต้นๆ หรือไม่ โดยได้หารือกับคณะกรรมการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของออสเตรเลีย (AOC) ถึงขั้นตอนการฉีดวัคซีนให้นักกีฬาออสเตรเลียราว 480 ราย และทีมผู้ดูแล 500 รายที่จะเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ณ กุรงโตเกียวในเดือนก.ค.นี้
นายริชาร์ด โคลเบ็ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกีฬาของออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า หนึ่งในข้อเสนอที่มีการพิจารณาอยู่นั้น รวมถึงการจัดให้นักกีฬาโอลิมปิกอยู่ในกลุ่มผู้ที่จะได้รับวัคซีนเป็นอันดับต้นๆ โดยนายโคลเบ็กได้กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า "รัฐบาลได้มีการหารือกับ AOC โดยตรงเกี่ยวกับข้อเสนอให้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับนักกีฬาโอลิมปิกและทีมผู้ดูแล"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.พ. แต่กลับประสบปัญหาจนเกิดความล่าช้าอย่างมาก ส่งผลให้รัฐบาลออสเตรเลียต้องยอมรับว่าจะไม่สามารถระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนได้ภายในเดือนต.ค.ตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้
ขณะนี้เหลือเวลาไม่ถึง 100 วันก่อนจะถึงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิก ทำให้นักกีฬาออสเตรเลียบางส่วนออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับแผนการฉีดวัคซีน โดยระบุว่าหากได้รับวัคซีนก็จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและสบายใจขึ้น เนื่องจากต่างประเทศมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากกว่าที่ออสเตรเลีย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลออสเตรเลียออกคำสั่งระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี เนื่องจากมีรายงานกรณีเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ด้วยเหตุนี้ AOC จึงมีการร้องขอให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์สำหรับฉีดให้นักกีฬาโอลิมปิก
"เราต้องการดูแลให้นักกีฬาของเราทุกคนได้รับการคุ้มครองและรักษาสุขภาพอย่างดีที่สุดระหว่างการเตรียมตัวเข้าแข่งขัน เพราะฉะนั้นเราจึงพยายามจะเลือกใช้วัคซีนที่ดีที่สุด มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด และสามารถดำเนินการฉีดได้ครบโดสได้รวดเร็วที่สุด" นายเคียเริน เพอร์กินส์ ประธานสมาคมนักกีฬาว่ายน้ำแห่งออสเตรเลีย (Swimming Australia) และอดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกกล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี