หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า คณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน (JCVI ) ของสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยในวันศุกร์ (16 เม.ย.) ว่า หญิงตั้งครรภ์ทุกคนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้แล้ว โดยเลือกฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์หรือของโมเดอร์นาได้ซึ่งจะพิจารณาตามอายุและกลุ่มเสี่ยงทางคลินิก หลังได้ข้อมูลจากสหรัฐที่บ่งชี้ว่า หญิงตั้งครรภ์ประมาณ 90,000 คนได้รับการฉีดวัคซีนแล้วโดยไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้หญิงตั้งครรภ์ในสหราชอาณาจักรเคยได้รับคำแนะนำว่า ไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เนื่องจากยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของการฉีดวัคซีนดังกล่าว
ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ในสหราชอาณาจักรสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้แล้วในทุกอายุครรภ์ ซึ่งในแต่ละปี สตรีประมาณ 700,000 คนจะให้กำเนิดบุตรในอังกฤษและเวลส์
สำหรับคำแนะนำใหม่ของสหราชอาณาจักรนั้นระบุว่า สตรีที่กำลังตั้งครรภ์, เพิ่งคลอดบุตร หรือกำลังให้นมบุตรนั้น สามารถฉีดวัคซีนต้านโควิดได้โดยขึ้นอยู่กับอายุ และกลุ่มเสี่ยงทางคลินิก
ศาสตราจารย์เหว่ย เฉิน ลิมจาก JCVI กล่าวว่า บรรดาสตรีตั้งครรภ์ควรหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการฉีดวัคซีนกับแพทย์ประจำตัวและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นนั้นก็ควรจะเข้ารับการฉีดวัคซีนในทันที
"ไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์" ศาสตราจารย์เหว่ยกล่าว
"เราได้ข้อมูลด้านความปลอดภัยจากสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการวัคซีนป้องกันโควิดของไฟเซอร์/บิออนเทค และของโมเดอร์นาให้กับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้สตรีมีครรภ์ในสหราชอาณาจักรสามารถฉีดวัคซีนดังกล่าวได้"
อย่างไรก็ตาม วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่พัฒนาขึ้นร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ซึ่งมีการใช้กันมากที่สุดในสหราชอาณาจักรนั้น กลับยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในสหรัฐ