สำนักงานความปลอดภัยด้านการคมนาคมบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ (NHTSA) และคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐ (NTSB) ได้ประกาศในวันจันทร์ (19 เม.ย.) ว่า จะร่วมกันสอบสวนกรณีรถยนต์เทสลาเกิดอุบัติเหตุในรัฐเท็กซัสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 เม.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รายงานว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีผู้นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ
NHTSA เปิดเผยว่า "เราได้มอบหมายให้ทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนอุบัติเหตุตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว และขณะนี้กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานตำรวจในท้องที่และบริษัทเทสลา อิงค์ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยเราจะมีการดำเนินการต่างๆ ตามความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติม"
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความไม่ไว้วางใจในระบบ Autopilot ของเทสลาซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนรถยนต์กึ่งอัตโนมัติ เนื่องจากมีการเกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านี้หลายครั้ง
มีรายงานว่า มีการใช้ระบบ Autopilot ระหว่างการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2562 ทั้งนี้ NHTSA ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เทสลาอีกอย่างน้อย 3 ครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่ามีสาเหตุเชื่อมโยงกับการใช้ระบบ Autopilot
ด้านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น KHOU-TV รายงานถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ว่า รถยนต์เทสลารุ่นโมเดลเอสปี 2562 ขับมาด้วยความเร็วสูงตามถนนใกล้เมืองฮูสตัน ก่อนจะเสียหลักระหว่างเข้าโค้งและพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทาง จากนั้นจึงเกิดไฟไหม้ขึ้น
เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 50 ล้านคนว่า "ขณะนี้รถยนต์ของเทสลาที่เปิดใช้ระบบ Autopilot มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่ารถยนต์ธรรมดาเกือบ 10 เท่า"