บริษัทซูบารุ คอร์ป ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทได้สั่งระงับการผลิตที่โรงงานในรัฐอินเดียนาของสหรัฐ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ และการระงับการผลิตจะดำเนินการต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปรับลดการผลิตรถยนต์ลงอีก 15,000 คัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การระงับการผลิตที่โรงงานในต่างประเทศเพียงแห่งเดียวของซูบารุดังกล่าวมีขึ้น หลังจากการสั่งระงับการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้การผลิตรถยนต์ลดลงราว 25,000 คันในเดือนเม.ย.
ซูบารุเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตขาดแคลนชิปทั่วโลกนับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
เซมิคอนดักเตอร์เริ่มขาดแคลนทั่วโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-10 กระตุ้นอุปสงค์ชิปที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่แล็ปท็อป, คอนโซลเกม และรถยนต์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ซูบารุปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ลง 48,000 คันในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของซูบารุกล่าวว่า การระงับการผลิตดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเหุตเพลิงไหม้โรงงานของเรเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ (Renesas Electronics) ซึ่งถือครองส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ในฐานะซัพพลายเออร์เซมิคอนดักเตอร์ยานยนต์
ขณะเดียวกัน โรงงานของซูบารุในจังหวัดกุนมะทางทิศตะวันออกของญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในสายการผลิตนั้นคาดว่าจะกลับมาดำเนินการผลิตในวันพุธนี้ ส่วนอีกสายการผลิตนั้นมีกำหนดกลับมาดำเนินการผลิตในวันที่ 10 พ.ค.
ทั้งนี้ ปัญหาการขาดแคลนชิปก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก โดยบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ปรับลดการผลิตรถยนต์ลง 7,500 คันที่โรงงาน 3 แห่งในประเทศญี่ปุ่นและไทยในเดือนเม.ย.นี้ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปเช่นกัน